วันพุธที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2552

Financial Literacy 101

สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้ผมขอนำเสนอบทความเรื่อง Financial Literacy 101 ลองตามอ่านกันดูครับ
เนื้อหาในบมความนี้กลั่นมาจากการได้อ่านหนังสือชุด "พ่อรวยสอนลูก" หรือ "Rich dad Poor dad" ที่แต่งโดย Robert Kiyosaki เป็นนักธุรกิจชาวอเมริกันครับ ซึ่งเนื้อหาหลักๆจะ้พูดถึงเรื่องเกี่ยวการเงินและการสร้างธุรกิจ seriesหนังสือชุดมีด้วยกัน 5 เล่ม(ถ้าจำไม่ผิดนะ) แต่ผมจะสรุปไปแบบรวมๆไม่ได้แยกที่ละเล่ม วันนี้ถือเป็นตอนแรกครับ

ถ้าหากจะแบ่งแยกประเภทรายได้ทั้งหมดในโลกนี้จะสามารถแยกได้เป็นสองประเภท

1. Active Income คือ รายได้ที่มาจากการที่เราเอา แรง,เวลา,ความรู้,สมอง ไปแลกเค้าถึงจะจ่ายค่าตอบแทนให้มา นั้นหมายถึงผู้คนส่วนใหญ่ในโลกนี้รันรายได้จากทางนี้ นับตั้งแต่ คนกวาดถนน พนังงาน วิศวกร แพทย์ หรือแม้แต่ CEO รวมทั้งเจ้าของกิจการขนาดเล็ก, เจ้าของร้านทั้งหลายด้วย คนในกลุ่มนี้หากวันไหนไม่ไปทำงานก็แน่นอนว่าจะถูกนายจ้างตัดวันลาหรือหักเงินเดือน เจ้าของกิจการหากวันไหนไปเปิดร้านก็ไม่มีรายได้

2. Passive Income คือ รายได้ที่มาจากทรัพย์สิน เช่น เรามีคอนโดแล้วปล่อยให้เช่า, เงินปันผลจากหุ้น พันธบัตรหรือกองทุน, ค่าลิขสิทธ์และสิทธิบัตรต่างๆ จะเห็นรายได้ทางนี้นั้นใช้เวลาและความรู้มากในช่วงแรกแต่หลังจากนั้นผู้ครอบครองทรัพย์สินก็สามารถเก็บกิน ค่าเช่าหรือเงินปันผลไปได้อีกนาน

ผมขอเปรียบเทียบง่ายๆอย่างนี้ว่า Active income นั้นก็คือการที่เราตักน้ำใส่ตุ่ม วันไหนไม่ตักก็ไม่มีน้ำเพิ่มพอถึงช่วงเกษียรอายุเราก็ตักน้ำออก ส่วน Passive income นั้นก็เหมือนเราสร้างก็อก สร้างท่อน้ำ ช่วงแรกๆก็คงมีน้ำจากท่อนี้น้อยเหลือเกิน แต่เมื่อไดที่ท่อนี้สรา่งเสร็จเมื่อนั้นเจ้าของท่อนี้ก็จะได้เริ่มเก็บเกี่ยวอย่างเต็มที่โดยที่เค้าไม่ต้องออกเพิ่มแล้ว

วันนี้ขอพอแค่นี้ก่อนครับ โอกาสหน้าจะนำเสนอว่าเราจะไปประยุกต์ใช้อย่างไร รวมทั้งรายละเอียดของ ทรัพย์สินแต่ละชนิดด้วยครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น